นายกำพล โชคสุนทสุทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท เอเซนเทค(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2540 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Simplify Your Business บริษัทคือผู้นำธุรกิจ RFID ซึ่งดำเนินธุรกิจ 3 กลุ่ม คือการนำเข้าอุปกรณ์ RFID เพื่อจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนจั
และกลุ่มที่สามคืองานที่ปรึกษา วิจัยและพัฒนาออกแบบระบบ RFID ให้กับลูกค้าเป็นการตอบโจทย์ธุรกิจที่มีความต้
โดยมีโครงการใหญ่ ๆ หลายโครงการ อาทิเช่น การนำระบบ RFID ไปใช้สำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอนนานาชาติ ปี 2014 และปี 2015 ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อจัดการข้อมูลผู้ร่วมแข่งขัน 15,000 คน ฯลฯ
ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่านวัตกรรม RFID มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพที่จะตอบโจทย์ธุรกิ
รองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่ อการเติบโตของบริษัทโดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 25% โดยแบ่งออกเป็นงานภาครัฐประมาณ 30%และงานจากบริษัทเอกชนประมาณ 70%
“ เอเซนเทค..ดำเนินธุรกิจโดยเน้ นไปที่การเสริมสร้างผลิตภัณฑ์ ให้มีความสามารถตามที่ลูกค้ าคาดหวัง
เพราะ ต้องการให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ ดีที่สุดจากระบบที่เราสร้างขึ้ นเพื่อตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของลู กค้าอย่างดีที่สุดภายใต้...วิสั ยทัศน์ของบริษัท....ที่ต้องการเป็นผู้ นำธุรกิจด้านเทคโนโลยี
RFID ที่ครบวงจรและน่าเชื่อถือที่สุ ดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ตลอดระยะเวลากว่า18ปีที่เราสั่งสมประสบการณ์ ในการทำงานของบุคลากรบริษั ทใน การนำเทคโนโลยีRFID มาสร้างนวัตกรรมต่างๆ ให้แก่ผู้ใช้ จนได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวางผลงานหนึ่งที่เราภาคภูมิใจคือการได้รับแต่ง ตั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี RFID จาก iTap(Industrial Technology Assistance Programหรือโครงการสนับสนุนการพั ฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทยซึ่งกิจกรรมหนึ่งของสวทช.)
“ เอเซนเทค..ดำเนินธุรกิจโดยเน้
เพราะ ต้องการให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่
RFID ที่ครบวงจรและน่าเชื่อถือที่สุ
บริษัท มีจุดเด่นในด้านของความรู้ ความเข้าใจในเทคโนโลยีที่ จะสามารถเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาและออกแบบการดำเนินการให้ แก่ผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิ ภาพ”นาย กำพลกล่าวและว่า จุดเด่นสำคัญของบริษัท 3 ประการคือ INNOVATIONหรือความ สามารถด้านการนำเสนอนวัตกรรม RFID ระดับโลก CONSULTANTหรือความสามารถในการให้คำปรึ กษาการใช้ นวัตกรรม RFID เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจของลูกค้าซึ ่งมี ความแตกต่างกัน และ EXPERT TEAM หรือความเชี่ยวชาญของทีมงาน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ออกแบบ การติดตั้ง การ Implement ระบบ และบริการปรับปรุงระบบต่อเนื่อง ฯลฯ ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริ การของเอเซนเทคได้อย่างต่อเนื่ องและมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายกำพล โชคสุนทสุทธิ์ กล่าวถึงความต้องการใช้นวัตกรรม RFID ว่าปัจจุบันเป็นยุคของการแข่งขันทางเทคโนโลยีแต่ก่อนจะต้องดูข้อมูลเป็ นรายไตรมาสแต่ตอนนี้ระบบข้อมูลต้องดูกั นเป็นรายชั่วโมง เวลาต้องเป็นแบบเรียลไทม์เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สามารถแข่ งขันได้ ตัวอย่างง่าย ๆ เช่นการจัดการขายสินค้าของห้ างสรรพสินค้าจะต้องมีการนำสินค้าไปเติมในชั้ นวางให้ทันก่อนสินค้าขาดแล้วจะทำอย่างไรให้คนมีอำนาจตั ดสินใจรับรู้ทันเวลา ฯลฯ เพราะฉะนั้นแนวโน้มการใช้นวัตกรรม RFID จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบรับกับการแข่งขันที่เพิ ่มสูงขึ้นในปัจจุบันยังมีธุรกิจอีกเป็ นจำนวนมากที่ยังไม่มีการนำ RFID ไปใช้ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจนั้นเสี ยเปรียบด้านการแข่งขัน
นายกำพล โชคสุนทสุทธิ์ กล่าวถึงความต้องการใช้นวัตกรรม RFID ว่าปัจจุบันเป็นยุคของการแข่งขันทางเทคโนโลยีแต่ก่อนจะต้องดูข้อมูลเป็
สำหรับแผนการตลาดของบริษัทนั้น นายกำพล โชคสุนทสุทธิ์ กล่าวว่า เอเซนเทคเน้นการทำตลาดอย่างมี ประสิทธิ ภาพโดยทีมผู้เชี่ ยวชาญของเอเซนเทคจะทำความเข้ าใจกับลูกค้าที่ต้องการใช้นวั ตกรรมRFID ถึงความสามารถในการตอบโจทย์ ทางธุรกิจแก่ลูกค้าโดยเปรียบเทียบถึงเม็ดเงิ นในการลงทุนกับประโยชน์ที่ได้รั บพร้อมกันนี้เอเซนเทคยังให้ การสนับสนุนความรู้ต่อเนื่องแก่ หน่วยงานต่างๆทั้งในรูปแบบของการจัดสั มมนาเฉพาะกลุ่มธุรกิจ กิจกรรมโรดโชว์ในงานต่าง ๆ โดยมีกิจกรรมประชาสัมพันธ์ควบคู ่ไปด้วยสำหรับการส่งเสริมการตลาดในส่ วนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ RFID นั้นจะได้รับการสนับสนุนจากคู่ค้าซึ ่งเป็นผู้นำนวัตกรรม RFID ของโลกอาทิเช่นเครื่องอ่าน Impinj จากประเทศสหรัฐอมริกา หรือเครื่องอ่าน Nedap จากประเทศฮอลแลนด์ ฯลฯ
โดยแต่ละแบรนด์จะสนับสนุนความรู ้ด้านเทคโนโลยีใหม่ๆซึ่งบริษัทพร้อมส่งต่อความก้ าวหน้านี้ไปยังลูกค้าและหน่ วยงานที่สนใจ
โดยงบสำหรับการตลาดในปีนี้นั้ นจะใช้งบประมาณ 10% ของมูลค่าการตลาดในปี2015 สำหรับผู้สนใจเกี่ยวกับนวัตกรรม RFID สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติ มได้ที่.....บริษัท เอเซนเทค(ประเทศไทย)จำกัด....ฝ่ายข้อมูลการตลาด โทร. 02-7432533-34 ทุกวันในเวลาทำการ
โดยแต่ละแบรนด์จะสนับสนุนความรู
โดยงบสำหรับการตลาดในปีนี้นั้